ต้องบอกเลยว่า iPad Pro 2021 นั้นก็เปิดตัวมาได้ โดยสร้างความฮือฮาให้กับเหล่าสาวก iPad Pro โดยเฉพาะการอัพเกรด เสปคภายในแบบชนิดที่ว่า ทิ้งฝุ่นทุกรุ่น ด้วยการนำเอาชิปหน่วยประมวลผล ที่เป็นผลงานชิ้นเอกของ Apple รุ่นล่าสุด อย่าง Apple M1 ที่ใส่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ Mac นำมาอัพเกรดลงใน iPad นั่นเอง โดย เมื่อปี 2020 ก็ได้เพิ่งเปิดตัว iPad Pro 2020 กับ iPAD Air 4 ไปไม่นาน เรียกได้ว่าเปิดตัวกันถี่ยับๆเลย สำหรับใครที่กำลังจะซื้อ iPad สักเครื่อง อาจจะกำลังสงสัยว่า iPad Pro 2021 กับ iPad Air 4 รุ่นใหม่นี้ รุ่นไหนจะคุ้มค่าว่ากัน
เทียบสเปคเบื้องต้นของ iPad ทั้งสองรุ่น
iPad Pro 2021 128GB เริ่มต้น 27,900 THB
Chip M1 Ram 8,16 GB
ความจุ เริ่มต้น 128GB
รองรับเทคโนโลยี 5G
ดีไซน์เครื่องแบบไร้ปุ่ม Home
รองรับ Apple Pencill Gen 2
รองรับ SmartKeyboard รุ่นใหม่
ใช้การ แสกนหน้า (Face ID)
เชื่อมต่อด้วย USB-C
ลำโพงรอบทิศทาง 4 ตัว
ขนาดจอ 11 นิ้ว , 12.9 นิ้ว
อัตรารีเฟรชเรต 120Hz
จอภาพแบบ LCD
Liquid Retina XDR
ความละเอียด 2,732 x 2,048
กล้องหลัง 2 ตัว
ตัวที่ 1 Ultra-Wide 10 MP
ตัวที่ 2 Wide 12 MP
+ Lidar Scanner เพิ่มความแม่นยำ
กล้องหน้า Wide 12 MP
iPad Air 4 64GB เริ่มต้น 19,900 THB
Chip A14 Bionic Ram 4 GB
ความจุ เริ่มต้น 64 GB
** ไม่รองรับเทคโนโลยี 5G
ดีไซน์เครื่องแบบไร้ปุ่ม Home
รองรับ Apple Pencill Gen 2
รองรับ SmartKeyboard รุ่นใหม่
* ใช้การ แสกนนิ้ว Touch ID ด้านบน
เชื่อมต่อด้วย USB-C
** ลำโพงซ้ายขวา 2 ตัว
ขนาดจอ 10.9 นิ้ว
* อัตรารีเฟรชเรต 60Hz
จอภาพแบบ LCD
** Liquid Retina
ความละเอียด 2,360 x 1,640
* กล้องหลัง Wide 12 MP
** กล้องหน้า Wide 7 MP
ยกที่ 1
หน่วยประมวลผล
หน่วยประมวลผล [CPU]
iPad Pro 2021 รุ่นใหม่นี้ ได้รับการอัพเกรดที่แทบจะเป็นการอัพเกรดไส้ในที่ดีที่สุดในบรรดา iPad ทุกรุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นการนำ Chip Apple M1 ที่เป็นตัวชูโรงของ Apple ในยุคนี้ ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ด้านการออกแบบการจัดการพลังงาน ด้านมาตราฐานใหม่ของ Apple ในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ อาทิเช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ iMac เครื่อง Macbook Pro , Air ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการทำงานทั้งสิ้น การที่ iPad ได้รับ ชิป M1 ซึ่งเป็นชิปเดียวกันกับที่ใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ นั่นหมายความว่าประสิทธิภาพโดยรวม จะดีกว่า iPad ทุกรุ่น ที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาดอย่างแน่นอน
ทำให้ iPad Pro สามารถทำงานหนักๆ ได้ ใกล้เคียงกับเครื่องคอมพิวเตอร์อย่าง iMac และ Macbook เลย ถึงอาจจะไม่ดีเท่า แต่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมกว่า เมื่อเทียบกับ iPad Air ที่ใช้ CPU ตัวเดียวกันกับอุปกรณ์ประเภทสมาร์ทโฟนอย่าง iPhone 12
สรุปหัวข้อนี้ สำหรับ iPad Pro 2021 กับ iPad Air 4 เพราะฉะนั้น หากใครที่กำลังมองหา เครื่อง iPad ที่ตั้งใจนำมาใช้งานเป็นเครื่องทำงานหลัก ไม่ว่าจะเป็น ตัดต่อวีดีโอ ทำ Content ทำกราฟิคหนักๆ ทำโมเดล 3D เป็นต้น iPad Pro 2021 จึงเป็นตัวเลือกที่ต้องเลือกเป็นอันดับ 1 เลย
หน่วยความจำและชิปกราฟิค [Ram & GPU]
พูดถึงหน่วยความจำ (Ram) กันก่อน ต้องแยกนะครับ Ram ไม่ใช่ พื้นที่จัดเก็บ (Storage) หรือที่เรียกกันว่า ความจุ 64GB 128GB ต่างๆ นาๆ Ram คือหน่วยความจำชั่วคราว ที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพภายในเครื่อง รองจาก CPU ยิ่งแรมมาก การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึง การทำงานหนักๆ ที่ต้องใช้ปริมาณแรมเยอะ ก็จะยิ่งลื่นไหลขึ้นเช่นกัน
ต้องบอกกันตามตรงว่า iPad Air 4 นั้นยังมีการหวงแรมอยู่ โดยให้มาเพียง 4GB เท่านั้น แต่ 4GB ก็เพียงพอต่อการทำงานไม่หนักมากได้แล้ว แต่อาจจะไม่พอสำหรับการทำงานใหญ่ๆ สำหรับ iPad Pro 2021 นั้นให้แรมมาซึ่งเป็นสองเท่าของ iPad Air 4 มากถึง 8GB และในความจุสูง ให้มาถึง 16GB กันเลยทีเดียว ต้องบอกว่า นี่มันมากกว่าคอมพิวเตอร์บางรุ่นเสียอีก
สำหรับชิปกราฟฟิคนั้นจะมีส่วนช่วยในการประมวลผลกราฟฟิค เช่นการเล่นเกม เป็นต้น ทาง เสปคของ iPad Pro 2021 กับ iPad Air 4 ก็มีส่วนต่างกันพอประมาณ แต่อาจจะไม่เห็นผลชัดเจนมากนัก ถ้าหากคุณไม่ได้เล่นเกมมากมาย
ในส่วนนี้ iPad Pro 2020 กับ iPad Air 4 ก็ยังคงแตกต่างกันครึ่งต่อครึ่งเลย..
พื้นที่เก็บข้อมูล หรือ ความจุ [Storage]
พื้นที่ความจุ คือสิ่งที่เกริ่นไปคร่าวๆ ในหัวข้อที่แล้ว แน่นอนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องช่างน้ำหนัก และตัดสินใจกันเอาเองนะครับ เพราะ iPad Pro 2021 นั้นมีความจุเริ่มต้นที่ 128GB ส่วน iPad Air 4 นั้นมีความจุเริ่มต้นที่ 64GB เท่านั้น
และแน่นอนว่าการเพิ่มความจุของ Apple ไม่มีการซื้อ SD Card ใส่เพิ่มแต่อย่างใด ต้องซื้อความจุภายในนั้นเอง ราคาก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน หากต้องการซื้อ iPad Air 4 ในความจุ 128GB จะต้อง บวกเงินเพิ่ม ถึง 5000 บาท โดยราคาจะไปใกล้เคียงกับ iPad Pro 2021 กันเลยทีเดียว
เรื่องนี้สำหรับ iPad Pro 2021 กับ iPad Air 4 ก็ต้องชั่งน้ำหนักกันเอาว่า 64GB นั้นเพียงพอหรือไม่ แต่สำหรับผม หากมี iPhone แล้ว iPad ความจุ 64GB นั้นเพียงพอหากไม่เก็บงานเยอะ แต่สำหรับ 128GB ก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
iPad Pro
10/10
Chip : Apple M1
Ram : 8/16 GB
ความจุเริ่มต้น : 128 GB
เทคโนโลยี 5G : รองรับ
iPad Air
7/10
Chip : Apple A14 Bionic
Ram : 4 GB
ความจุเริ่มต้น : 64 GB
เทคโนโลยี 5G : ไม่รองรับ
iPad Pro
WIN!
ยกที่ 2
จอแสดงผลภาพ
ขนาดจอแสดงผลภาพ [Display Size]
สำหรับหัวข้อนี้ต้องบอกว่า iPad Pro 2021 กับ iPad Air 4 ถ้า เป็นรุ่น Pro ในรุ่นจอ 11 นิ้ว ก็ต้องบอกว่าไม่แตกต่างกันเลย
เพราะ จอแสดงผลใน iPad Pro 2021 นั้นเรื่องขนาดจอถือว่าใกล้เคียงกับ iPad Air 4 หลังจากที่ถูกอัพเกรดมาอย่างมาก โดย iPad Pro 2021 มีจอขนาด 11 นิ้ว และ iPad Air 4 มีจอขนาด 10.9 นิ้ว นับว่าห่างกันแค่นิดเดียว แต่โดยรวมแล้ว iPad Pro 2021 จะมีขอบจอที่บางกว่านั่นเอง รวมถึง iPad Pro 2021 ยังมีจอขนาดใหญ่ ถึง 12.9 นิ้วให้เลือกเพิ่มเติมอีกด้วย หากต้องการจอใหญ่ คงต้องมองแค่ Pro เท่านั้น
ความละเอียดและการแสดงผลสี [Display Specification]
ความละเอียดของทั้งสองไม่แตกต่างกันมากนัก โดยทั้งคู่มีความละเอียดที่สูง แต่ iPad Pro 2021 ในรุ่น 11 นิ้ว จะให้การแสดงผลสี ความสว่าง และความที่มีความคมชัดที่ละเอียดมากกว่าเล็กน้อย
iPad Air 4 และ iPad Pro 2021 รุ่น 11 นิ้ว ในรุ่นใช้หน้าจอ LCD พาเนล IPS แบบ Liquid Retina Display ที่มีสเปคเรื่องการแสดงผลสี ความคมชัดต่างกันเล็กน้อยมากๆ (หลักร้อย)
แต่จะต่างจาก iPad Pro 2021 รุ่นจอใหญ่ 12.9 นิ้วที่จะมีหน้าจอ Liquid Retina XDR ที่เป็นหน้าจอแบบ Mini LED จะมีเม็ดแสงเล็กๆ จำนวนมาก ทำให้จอสว่างกว่า สีคมชัดกว่า ดีกว่าทั้งสองรุ่น
ถ้าหากใช้เรื่องความคมชัดของจอมาตัดสิน iPad Air 4 กับ iPad Pro 2021 11 นิ้วก็ไม่ใช่เรื่องที่จะตัดสินกันได้นัก เพราะทั้งสองรุ่น ยังแพ้ iPhone 12 Pro ที่ใช้จอ Super Retina XDR (OLED) อยู่เลย จะมีเพียงเรื่องของความเร็วในการแสดงผลจอที่ต้องตัดสินใจ ในหัวข้อถัดไป
ความเร็วในการแสดงผล [Refresh Rate]
ถึงเสปคจอจะเหมือนกันหลายๆอย่าง สำหรับ iPad Air 4 และ iPad Pro 2021 11 นิ้ว แต่ที่ไม่เหมือนคือ iPad Pro 2021 จะเป็นหน้าจอแบบ Pro Motion ที่มีความเร็วในการแสดงผล 120Hz จะทำให้การแสดงผลนั้นลื่นไหลมากกว่า สมูทมากกว่ามาก ไม่ว่าจะเป็น การลากปากกาวาดรูปแบบเร็วๆ การเล่นเกมที่ต้องเคลื่อนไหวเร็วๆ นั้นจะเห็นผลอย่างมาก แต่หากเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็น
สำหรับประเด็นเรื่องจอถ้าไม่สนอัตรา Refresh Rate ก็ตัดตกไปได้เลยสำหรับ iPad Pro 2021 กับ iPad Air 4 ทั้งสอง ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องมาซีเรียสครับ
iPad Pro
9/10
ขนาดจอ : 11 นิ้ว / 12.9 นิ้ว
อัตรารีเฟรชเรต : 120Hz
รุ่น 11 นิ้ว : Liquid Retina
รุ่น 12.9 นิ้ว : Mini LED Liquid Retina XDR
ความละเอียด : 2,732 x 2,048
iPad Air
7/10
ขนาดจอ : 10.9 นิ้ว
อัตรารีเฟรชเรต : 60Hz
จอภาพ : Liquid Retina
ความละเอียด : 2,360 x 1,640
iPad Pro
WIN!
ยกที่ 3
Design เครื่อง
การออกแบบเครื่อง [Design]
การปรับเปลี่ยนยกเครื่องของ iPad Air 4 ที่ไปใช้ดีไซน์แบบ เต็มขอบเหมือนกับ iPad Pro 2021 และไร้ซึ่งปุ่ม Home นั้นทำให้ iPad Air 4 น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะใช้ อุปกรณ์ของ Apple เช่น ปากกา เคส คีย์บอร์ด ได้เหมือนกันกับ iPad Pro 2021 แล้ว ยังมีราคาที่ถูกกว่า และยังมีสีให้เลือกมากกว่า iPad Pro 2021 อีกเยอะเลยด้วย นอกจากนั้น การรองรับการชาร์จด้วย USB-C เป็นสิ่งที่หลายคนโหยหากันมานานจริงๆ เพราะ USB-C นั้นชาร์จไวทันใจ ถ่ายโอนข้อมูลก็ไวกว่าพอร์ตโบราณอย่างมาก ในส่วนนี้ ต้องบอกเลยว่าการตลาดเขาดี ทำให้ iPad Air 4 ถือว่ากินขาดไปหลายอย่างพอสมควรเลย
ระบบเสียงและลำโพง [Speaker]
เป็นเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เชื่อว่าหลายคนใช้ iPad ดู Netfilx ดูซีรีส์ ดู Youtube iPad Air 4 นั้นให้ระบบเสียงแบบ Stereo แยกซ้ายขวาแบบปกติ และมีลำโพง 2 ตัวด้วยกัน เหมือนๆกันกับ iPad รุ่นอื่นๆ แต่ในรุ่น Pro 2021 นั้นให้ลำโพงที่ดีมาตลอด คือเป็นลำโพงแบบ เสียงรอบด้านแบบ Surrounded จะมีมิติมากกว่า และยังมีลำโพงมาให้ถึง 4 ตัว พร้อมระบบ Dolby System ทำให้เสียงดังชัด กระหึ่ม คุณภาพดีมากกว่า ถ้าดูหนังแล้วสนใจเรื่องนี้ก็คิดว่าควรเก็บไว้พิจารณาด้วย
แต่สำหรับผมเรื่องนี้แก้ปัญหาง่ายมาก ผมเป็นคนซีเรียสเรื่องเสียงมากกว่าเรื่องไหนๆ ยังไงผมก็หาลำโพง บลูทูธ คุณภาพดีกว่า ลำโพง iPad มีเกลื่อนเต็มท้องตลาด จบกว่าครับ
สแกนหน้า หรือ สแกนนิ้ว? [Face ID or Touch ID]
หลายคนไม่ทราบว่า iPad ทั้งสองรุ่นมีดีไซน์เหมือนกัน แต่ใน iPad ทั้งสองรุ่นให้ระบบความปลอดภัยไม่เหมือนกัน iPad Pro 2021 ยังคง สแกนหน้าไว้ดังเดิม ซึ่งระบบแสกนหน้ามีความรวดเร็ว ใครใช้แล้วต้องติดใจแน่ แต่ในสถานการณ์โควิท 19 ระบบสแกนนิ้วก็ยังมีความน่าสนใจกรณีเราใส่หน้ากาก iPad Air 4 ได้ให้ระบบสแกนนิ้วเหมือนเดิม เพียงแต่ย้ายไปบริเวณ ปุ่มล๊อคเครื่องด้านบนนั่นเอง
สำหรับประเด็นนี้ iPad Pro 2021 กับ iPad Air 4 ทั้งสองระบบดีคนละแบบ อยู่ที่เลือกใช้แล้วกัน
iPad Pro
9/10
ดีไซน์ : แบบไร้ปุ่ม Home
รองรับอุปกรณ์เสริมรุ่นใหม่
ระบบ : แสกนหน้า (Face ID)
เชื่อมต่อ : USB-C
ลำโพง : รอบทิศทาง 4 ตัว
iPad Air
8/10
ดีไซน์ : แบบไร้ปุ่ม Home
รองรับ : อุปกรณ์เสริมรุ่นใหม่
ระบบ : แสกนนิ้ว (Touch ID)
เชื่อมต่อ : USB-C
ลำโพง : ซ้ายขวา 2 ตัว
ไม่แตกต่างกันมากนัก
ยกที่ 4
Camera
กล้อง iPad Pro 2021
กล้อง iPad Pro 2021 นั้นใช้กล้องแบบเดียวกันกับ iPhone 11 คือมีเลนส์ 2 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์ Ultra Wide – เลนส์ Wide ตามสเปคเลนส์ที่เขียนไว้ข้างต้น รวมถึงมี Lidar-Scanner ที่อยู่ใน iPhone รุ่น Pro ใส่มาเพิ่มด้วย ทำให้การโฟกัสแม่นยำมากขึ้น โดนเลนส์ทั้งสองของ iPad Pro นั้นมีคุณภาพที่ดีพอๆกับ iPhone แตกต่างคือการไม่รองรับ Night Mode นั่นเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างประหลาดอยู่เหมือนกัน รวมถึงกล้องหน้า มีคุณภาพดีกว่าทุกรุ่น โดยรวม กล้อง iPad Pro มีคุณภาพดีที่สุดในบรรดา iPad ทั้งหมด แต่ไม่สู้ iPhone นั่นเอง
กล้อง iPad Air 4
กล้อง iPad Air 4 นั้นก็อัพเกรดมาถือว่าไม่ได้แย่ สามารถใช้งานทั่วไปได้ ถึงแม้จะไม่มีเลนส์ Ultra-Wide และไม่มี Lidar-Scanner ก็ตาม กล้องหน้าคุณภาพลดลงกว่า iPad Pro 2021 ราวๆ ครึ่งหนึ่ง แต่ก็สามารถใช้งานทั่วไปได้
กล้อง iPad จำเป็นแค่ไหน??
ต้องบอกว่า ต่อให้กล้องดีที่สุดในรุ่น Pro ก็สู้ iPhone ไม่ได้อยู่ดี ถ้าเน้นถ่ายรูป ไปซื้อ iPhone Pro ก็ตรงต่อจุดประสงค์กว่าแบบเห็นๆ มีทั้ง 3 กล้อง และ Lidar Scanner แถมมี Night Mode ถ่ายตอนกลางคืนสวยงามกว่าอีก
ส่วนตัวผมคิดว่ากล้อง iPad ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น เนื่องจาก iPad มีขนาดใหญ่ เวลายกถ่ายรูปมันก็จะทำให้แปลกๆ ใช่ไหมล่ะ
อีกอย่าง iPad นั้นหนักกว่า iPhone เวลาถ่ายวีดีโอ ทำให้คุมความสั่นไหวได้ยากมากกว่าอีก และยังใช้พวก Gimbal หรือ ไม้เซลฟี่ ต่างๆ ไม่ได้อีก
สำหรับประเด็นเรื่องกล้อง ของ iPad Pro 2021 กับ iPad Air 4 นั้นตัดตกไปทั้งสองรุ่นได้เลย
iPad Pro
8/10
จำนวนกล้องหลัง : 2
ตัวที่ 1 Ultra-Wide 10 MP
ตัวที่ 2 Wide 12 MP
Lidar Scanner : มี
กล้องหน้า : Wide 12 MP
iPad Air
6/10
กล้องหลัง : Wide 12 MP
Lidar Scanner : ไม่มี
กล้องหน้า : Wide 7 MP
iPad Pro
WIN!
- OVERALL -
iPad Pro
36/40
ความจุ 128GB
ราคาเริ่มต้น 27,900
iPad Air
28/40
ความจุ 64GB
ราคาเริ่มต้น 19,900
Pro ดีกว่า
23%
**การให้คะแนนเพื่อประเมินค่าเป็นตัวเลขทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้น โดยอ้างอิงจาก คะแนนผลเทส , การใช้งานเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน , เทคโนโลยีล่าสุด ในกลุ่มผลิตภัณฑ์แอปเปิ้ล เป็นต้น
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับการเปรียบเทียบแบบเชิงลึก ระหว่าง iPad Pro 2021 กับ iPad Air 4 ถ้าหากอ่านจนจบละก็ ก็คิดว่าผู้อ่านคงตัดสินใจได้แล้วนะครับ ว่าจะเลือกรุ่นไหนดี ถ้าหากอยากรู้รุ่นอื่นๆ หรือเปรียบเทียบอื่นๆ ให้กดกลับไปที่หน้าสารบัญ เพื่อเลือกรุ่นอื่นๆ และเข้าไปอ่านบทความอื่นๆได้เลยครับ
หากชอบบทความของเรา สามารถให้กำลังใจได้ด้วยการ
กดไลค์ GagangTech และติดตามช่อง Youtube GagangTech
– แล้วไว้เจอกันใหม่ ในบทความหน้า สวัสดีครับ –